5 ปี App Store โหลด 5 หมื่นล้านครั้ง

อ

ในปีนี้เป็นการครบรอบ 5 ปีของการเปิดตัว App Store คลังดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นสำหรับ iPhone, iPod และ iPad จากวันเปิดตัวเมื่อปี 2008 ที่มีแอพอยู่เพียง 500 แอพ ปัจจุบันมีแอพมากกว่า 7 แสนแอพเข้าไปแล้วพร้อมยอดดาวน์โหลดในขณะนี้ที่ทะลุ 5 หมื่นล้านครั้ง !! ไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่ง Apple ก็เตรียมฉลองความสำเร็จนี้ด้วยการแจกโปสเตอร์ไปตามสื่อต่างๆ ที่แสดงกราฟของยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นบน App Store ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันแสดงถึงความนิยมและความเชื่อมั่นต่อผลิตภัณฑ์พกพาของ Appleทั้ง iPhone, iPod รวมถึง iPad หนึ่งในสาเหตุที่แอพบน iOS ได้รับความนิยมจนมียอดดาวน์โหลดมากมายมหาศาลมาส่วนหนึ่งมาจาก Apple ประสบความสำเร็จในการขยายตลาด iPhone ทั้งในสหรัฐฯและประเทศต่างๆทั่วโลก ประกอบกับการพัฒนาแอพพลิเคชั่นบน App Store ยังการันตีเรื่องรายได้ให้กับนักพัฒนาทำให้แอพพลิเคชั่นต่างๆมีคุณภาพและสามารถเข้าถึงผู้ใช้ได้ย่างตรงตามความต้องการ

ซึ่งในอนาคตก็เชื่อว่า App Store ก็ยังจะเติบโตต่อไปเรื่อยๆ และคงความเป็นอันดับ 1 ต่อไป !!

ที่มา  ข่าวไอที arip 

คู่แข่ง Google Glass ตัวจริง

คอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษนี้ถูกคิดค้นและพัฒนาด้วยความร่วมมือจากทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เมืองซานดิเอโก้ กับสถาบันเทคโนโลยีในโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ภายใต้โครงการขององค์กรวิจัย DARPA เพื่อป้องกันประเทศสหรัฐอเมริกา มีความบางอยู่ที่ 1.17 มิลลิเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 มิลลิเมตรเป็นคอนแทคเลนส์คู่แรกของโลกที่มี 2.8x optical zoom ในตัวด้วย การทดสอบคอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษเริ่มต้นใช้งานกับผู้สูงอายุที่มีปัญหาทางด้านการมองเห็น ร่วมกับอุปกรณ์ที่ติดอยู่บนแว่นตาช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถสลับไปมาระหว่างวิสัยทัศน์ปกติและการซูมได้ ซึ่งในอนาคตข้างหน้าทางทีมวิจัยเตรียมพัฒนาสำหรับใช้งานในทางการทหารและสำหรับคนทั่วไป พร้อมผสมผสานเทคโนโลยีจอแอลซีดีที่สามารถฝังลงในคอนแทคเลนส์ได้ นอกจากนี้ยังจะพัฒนาเพื่อใช้ในการถ่ายภาพได้อีกด้วย

ที่มา  photography-news.com

iPhone 5S รู้ก่อนเปิดตัว

ก่อนที่เราจะไปพบกับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ วันนี้เราจึงรวบรวมพัฒนาการต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นกับ iPhone 5S มาโหมโรงกันเล็กน้อย

1. ชื่อที่ใช้เรียก iPhone รุ่นใหม่จะเป็น 5S จริงหรือ ? หรือจะกระโดดไปเป็น iPhone 6 ?

บางครั้งก็เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยากกับชื่อผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของ Apple แม้ที่ผ่าน iPhone รุ่นใหม่ที่เกิดจากการปรับปรุงฮาร์ดแวร์พื้นฐานมักจะลงท้ายด้วยคำว่า "S" ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันสื่อแทบทุกสำนักต่างฟันธงว่ามันคือ iPhone 5S แต่อย่าลืมว่า Apple เคยเซอร์ไพรส์ด้วยการออก The New iPad โดยไม่เรียกว่า iPad 3 มาแล้วด้วย ฉะนั้นชื่อของ iPhone 6 ที่ถูกพูดถึงกันประปรายก็อาจเป็นชื่อจริงของ iPhone รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในวันพรุ่งนี้ก็เป็นได้

2. ดีไซน์ตัวเครื่องในภาพรวม

ตัวเครื่องของ iPhone 5S ยังยึดขนาดหน้าจอ 4 นิ้วเป็นหลัก ใช้ความละเอียด 1136×640 พิกเซล พ่วงด้วยเทคโนโลยี IGZO ของ Sharp ช่วยในเรื่องการประหยัดพลังงานมากขึ้นและสีสันของการแสดงผลได้คมชัดยิ่งขึ้น  และจะทำการปรับเทคโนโลยีหน้าจอบน iPhone 5 จากเดิมที่เป็นแบบ in-cell ที่แม้จะช่วยให้ตัวเครื่องบางลงแต่ก็มีปัญหาเรื่องการทัชสกรีนอยู่พอสมควร ดังนั้น Apple จะแก้ปัญหาด้วยการใช้เทคโนโลยี Touch-on-Display เพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้นแถมยังอาจทำให้ตัวเครื่องบางลงเล็กน้อยด้วย ส่วนพอร์ตต่างๆ หรือลำโพง ก็ยังจะเหมือนกัน iPhone 5 แทบทุกประการ แม้จะมีข่าวเร็วๆนี้ถึงขนาดหน้าจอ iPhone รุ่นใหม่ตั้งแต่ 4.8 - 6 นิ้ว แต่นั่นก็ยังอยู่ขั้นตอนการทดสอบเบื้องต้นเท่านั้น ส่วนที่จะเพิ่มเติมคือสีใหม่ที่เรียกว่า "แชมเปญ" นอกเหนือจากสีดำกับสีขาว เป็นทางเลือกที่มากขึ้นของผู้ใช้สมาร์ทโฟนและยังเป็นการเดินตามกลไกของตลาดที่มักมีสีสันของสมาร์ทโฟนออกมาให้เลือกกันมากขึ้น

3. ฮาร์ดแวร์ที่พัฒนาขึ้น

ตามข้อมูลที่พบได้ตามสื่อต่างๆ ชี้ให้เห็นว่า iPhone 5S จะคงเซนเซอร์ความละเอียดของกล้องหลังไว้อยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล แต่อัพเกรดเรื่องของรูรับแสงมาอยู่ในระดับ f/2.0 พร้อมเพิ่มแฟลชคู่แบบ LED เข้ามาเติมเต็มการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดียิ่งขึ้นอันเป็นคุณสมบัติของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่หลายๆรุ่นในปัจจุบัน โหมดในการถ่ายวีดีโอก็เช่นกันมีผู้ค้นพบโค้ดลับที่เรียกว่า “Mogul” ซึ่งจะทำให้ iPhone 5S สามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้ที่ 120 เฟรมต่อวินาที นั่นก็หมายความว่าจะสามารถถ่ายวีดีโอแบบสโลโมชั่นได้นั่นเอง

4. ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ เร็ว แรงขึ้น 31%

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะพัฒนาขึ้นคือความเร็วในการประมวลผล ซึ่ง iPhone 5S ถูกพัวพันอยู่กับชิป "A7" ที่มีคุณสมบัติของการทำงานได้เร็วกว่าชิป A6 บน iPhone 5 มากถึง 31% และยังอาจเป็นครั้งแรกสำหรับ iPhone 5S ที่รองรับระบบ 64-bit ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลขนาดใหญ่ขึ้นได้มาก

5. แบตเตอรี่

ปัญหาใหญ่ของ iPhone 5 ที่มีผู้ใช้ร้องเรียนกันบ่อยครั้งคือแบตเตอรี่ที่หมดเร็วกว่าที่ควรจะเป็น แม้จะมีข่าวว่า iPhone 5S จะหันมาใช้หน้าจอที่พ่วงมากับเทคโนโลยี IGZO ของ Sharp เข้ามาช่วยในเรื่องการประหยัดพลังงาน แต่นั่นก็อาจไม่ช่วยให้ผู้ใช้เห็นภาพที่ชัดเจน ดังนั้นการเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้มีความจุเพิ่มขึ้นเพื่อยืดชั่วโมงการใช้งานจึงเป็นสิ่งที่ Apple น่าจะให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ

6. ฟีเจอร์ใหม่

ในอดีตที่ผ่านมา iPhone รุ่น S ทั้งหลายมักมีการเพิ่มฟีเจอร์ขึ้นมาอย่างน้อย 1 ฟีเจอร์ ในครั้งนี้ก็เช่นกัน iPhone 5S ตกเป็นข่าวกับเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือหรือ Finger Print  ที่จะฝังอยู่ใต้ปุ่ม home เพื่อเข้าเสริมความปลอดภัยในการปลดล็อคเครื่องแทนที่การใส่รหัสแบบเดิมๆ นอกจากนี้ Finger Print อาจพ่วงมาด้วยการใช้งานร่วมกับบริการธุรกรรมทางการเงินรวมถึงบริการอื่นๆด้วย

เป็นที่น่าสนใจว่าการมาของ iPhone 5S จะดึงดูดผู้ที่เป็นสาวกตลอดผู้ใช้สมาร์ทโฟนได้มากน้อยเพียงใด และแนวทางที่เกิดขึ้นกับ iPhone 5S จะคงความเป็น "นวัตกรรม" มากกว่าเป็นสินค้ายอดนิยมต่อไปและจะทิ้งห่างคู่แข่งในเรื่องของคุณสมบัติได้เหมือนทุกครั้งทีผ่านมาหรือไม่

ที่มา http://www.arip.co.th

เลอโนโว เติมเต็มความคุ้มค่าให้ธุรกิจ

ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ในราคาที่โดนใจ

            เลอโนโว มอบข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าธุรกิจ จัดโปรโมชั่นราคาพิเศษโน๊ตบุ้ค อัลตร้าบุ้ค และแท็บเล็ต ตระกูล ThinkPad เพื่อเติมเต็มความคุ้มค่าให้กับลูกค้าธุรกิจ ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตอบโจทย์การทำงานและช่วยขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางธุรกิจ พร้อมประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในราคาโดนใจยาวถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2556 ที่ร้านค้าที่ร่วมรายการ

รายละเอียดโปรโมชั่น

• เลอโนโว ThinkPad Helix อัลตร้าบุ๊กแบบคอนเวอร์ทิเบิลระดับพรีเมี่ยมที่สามารถปรับใช้งานได้มากถึง 4 โหมด รวมถึงการถอดแยกส่วนเพื่อใช้งานแบบแท็บแล็ต ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 51,900 บาท (สุทธิ)

• เลอโนโว ThinkPad Tablet 2 แท็บแล็ตรุ่นใหม่ที่มีความบางเบา แบตเตอร์รี่ใช้งานได้ยาวนานและเชื่อมต่อกับอุกรณ์ไร้สายได้อย่างง่ายดาย ราคาจำหน่ายที่ 26,590 บาท (สุทธิ)

• เลอโนโว ThinkPad EDGE E330 โน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพเยี่ยม เสริมความทนทานช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น พร้อมประสิทธิภาพด้านกราฟฟิคสุดล้ำกับ NVIDIA® Optimus™ discrete graphics ด้วยความจุถึง 1GB VRAM หรือ Intel® integrated graphics บนจอภาพ HD ขนาด 13.3 นิ้ว ราคาจำหน่ายที่ 23,900 บาท (สุทธิ)  

• เลอโนโว ThinkPad EDGE E430 มาพร้อมหน่วยประมวลผล Intel Core i5 Processor จอแสดงผลแบบ LED ขนาด 14 นิ้ว ให้ความกระทัดรัด พกพาสะดวกพร้อมบลูทูธในตัว และ USB Port ทำให้คุณเปิดดูไฟล์ข้อมูลได้อย่างสะดวก ราคาจำหน่ายที่ 19,990 บาท (สุทธิ)

• โน๊ตบุ๊คเลอโนโว ThinkPad T430 ผสานความคล่องตัวกับประสิทธิภาพในการทำงานทุกที่ทุกเวลาด้วยแบตเตอรี่ที่มีชั่วโมงการใช้งานนานถึง 32.5 ชั่วโมง รูปทรงเรียบง่าย แต่ประสิทธิภาพสูง พร้อมคุณสมบัติที่เหมาะกับการพกพา อาทิ USB 3.0, Lenovo RapidCharge และ 4G mobile broadband  ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 29,900 บาท (สุทธิ)

• เลอโนโว ThinkPad T430u อัลตร้าบุ๊ค ที่มาพร้อมทุกความต้องการของผู้ใช้งานทางธุรกิจ ดีไซน์บางเบา ด้วยความบางเพียง 2 เซนติเมตรและน้ำหนักเบาแค่ 1.8 กิโลกรัม หน่วยประมวลผล Intel Core ประสิทธิภาพในการบูทเครื่องและกลับสู่สถานะล่าสุดได้อย่างรวดเร็ว ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 33,900 บาท (สุทธิ)

• เลอโนโว ThinkPad X230 มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน เครื่องขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา จอ super-bright ขนาด 12.5 นิ้ว (300 nit IPS wide-viewing display) และ 4G mobile broadband ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 25,900 บาท (สุทธิ)

• เลอโนโว ThinkPad Twist อัลตร้าบุ๊คผสมแท็บเล็ตเพื่อธุรกิจ บิด หมุน พับ ได้ 360 องศา หน้าจอสัมผัสแบบ Gorilla Glass ขนาด 12.5 นิ้ว ทนทานทุกรอยขีดข่วน มาพร้อมหน่วยประมวลผลแบบ Intel Core i5 เจนเนอเรชั่น 3 และระบบปฏิบัติการ Windows 8 Pro ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 33,900 บาท (สุทธิ)

ที่มา http://www.arip.co.th

โปรแกรมแปลงไฟล์(Format Factory )

สำหรับโปรแกรมแปลงไฟล์ที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายโปรแกรม มีทั้งของฟรีและก็เสียเงิน

สำหรับโปรแกรมแปลงไฟล์ที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายโปรแกรม มีทั้งของฟรีและก็เสียเงิน ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรม Any Video Converter, FreeRIP, ImBatch 1.6, Avidemux 2.6.4 หรือ Mega Video Converterเป็นต้น ซึ่งแต่ละโปรแกรมก็มีหน้าที่การทำงานแตกต่างกันไป

แต่ใครที่กำลังหาโปรแกรมแปลงไฟล์ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์หนัง ไฟล์ดนตรี ไฟล์รูปภาพ  ก็ตามเราจะต้องดาวโหลดมาหลายโปรแกรม อย่างถ้าเราจะแปลงไฟล์รูปเราก็ต้องหาโปรแกรมที่รองรับและตัดต่อรูป ถ้าเราจะตัดต่อเพลงเราก็ต้องหาโปรแกรมที่ตัดต่อเพลง ว่าง่ายๆอยากจะตัดต่ออะไรก็ต้องก็ต้องหาโปรแกรมนั้นๆมาใช้ ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์เราเปลื้องพื้นที่ทรัพยากรฮาร์ดดิสแน่เลย วันนี้ทาง Admin จะมานำเสนอโปรแกรมที่สามารถทำได้ทั้ง ไฟล์เพลง ไฟล์รูป ไฟล์หนัง ให้คุณได้ตัด ต่อ แต่ง ในโปรแกรมเดียว นั้นคือ โปรแกรม Format Factory หรือที่รู้จักหรือเรียกกันว่าโปรแกรมครอบจักวาล มันสามารถรองรับไฟล์เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นไฟล์หนังไฟล์วีดีโออย่าง MP4,3GP,MPG,AVI เป็นต้น ไฟล์เสียง MP3,WMA,OGG,AAC,WAV หรือไฟล์รูปภาพ JGP,BMP,PNG,ICO,TIF,GIF เป็นต้น อีกทั้งมันยังทำหน้าที่ RIP DVD RIP CD เปลี่ยนไฟล์ให้ฟังใน Iphone Ipad Ipod ได้อีกด้วย โปรแกรมนี้สามารถซ่อมแซมความเสียหายจากไฟล์ที่เราเอามาใช้งาน รองรับการทำงานได้เกือบทุกประเทศด้วย 62 ภาษาทั่วโลก

เห็นความสามารถแบบนี้ก็หาติดเครื่องมาไว้ใช้นะครับ ขนาดของโปรแกรมเพียงไม่กี่ MB ที่สำคัญโปรแกรมนี้มีให้ได้โหลดฟรีตามเว็บไซต์ดาวโหลด ติดตั้งได้ทุกระบบปฏิบัติการทุกเวอร์ชั่นเลยทีเดียว

ที่มา nattapol

ไมโครซอฟท์แจก Xbox One เครื่องสีขาวให้แก่พนักงาน !

ทางด้านขาใหญ่ซอฟต์แวร์ Microsoft ใจปล้ำมากๆ ถึงกับทำการแจก Xbox One ให้แก่พนักงานฟรี แต่ที่พิเศษกว่าการได้ของฟรี มันคือเครื่อง Xbox One สีขาว !!

หากคุณต้องการ Xbox One สีขาว ซึ่งไม่มีผลิตขายสำหรับคนธรรมดาทั่วไปอยู่เเล้ว เพราะเขาขายเเต่เฉพาะสีดำเท่านั้น.. แต่ตอนนี้ หากคุณอยากได้ Xbox One สีขาวแบบฟรีๆ เห็นทีคุณต้องไปเป็นพนักงานให้กับ Microsoft เสียเเล้ว..

 

รูปภาพ Xbox One เครื่องสีขาวน่าแปดเปื้อนเครื่องนี้มาจากเว็ปไซต์ Reddit ซึ่งทางเว็ปได้เผยเเพร่ข่าวน่าอิจฉาว่า Microsoft จะทำการเเจกเครื่องเล่นเกมคอนโซลดังกล่าวกับทุกคนที่ทำงานใน Microsoft's IEB (Internet Entertainment Business) 

 

นี่ไม่ใช่ความใจดีครั้งเเรกของ Microsoft ที่ไล่เเจกสินค้าให้เเก่พนักงาน เเต่ย้อนไปเมื่อปี 2010 ทางบริษัทได้เคยเเจกอุปกรณ์พร้อม Windows 7 ให้เเก่พนักงานทุกคนมาเเล้วด้วย

 

Xbox One จะวางขายในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ซึ่งจะไม่มีเครื่องสีขาววางขายอยู่อย่างเเน่นอน น่าอิจฉาจริงๆ

ที่มา : mashable

 

แอนดรอยด์โฟนรุ่นใหม่สไตล์ Nokia

               ตั้งแต่ Nokia หันมาใช้ Windows Phone กับสมาร์ทโฟนของตัวเองจนกระทั่งถูก Microsoft เข้าซื้อกิจการทำให้เราคงไม่ได้เห็น Nokia เปลี่ยนมาใช้ Android OS อย่างที่แอบหวังไว้เล็กๆ อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการสานต่อความเป็นสมาร์ทโฟนแบรนด์ฟินแลนด์อย่างแท้จริง อดีตซีอีโอของ Nokia จึงหันมาผลิตสมาร์ทโฟน Android รุ่นใหม่สไตล์ Nokia แต่เปลี่ยนมาเป็นชื่อว่า "Newkia"

          Thomas Zilliacus อดีตซีอีโอของ Nokia ในแถบเอเชีย-แปซิฟิก ได้จัดตั้งบริษัทในประเทศสิงคโปร์โดยใช้ชื่อว่า "Newkia" เป็นบริษัทที่ได้รวบรวมอดีตพนักงานของ Nokia ที่ต้องการสานต่อความฝันสมาร์ทโฟน Nokia ภายใต้ระบบปฏิบัตการ Android ซึ่งอดีตซีอีโอของ Nokia กล่าวถึง Newkia ว่าเป็นบริษัทที่เกิดขึ้นหลังจากบริษัท Nokia ในประเทศฟินแลนด์ถูกซื้อกิจการไปโดย Microsoft เมื่อแบรนด์เก่าตายไป Newkia จึงเปรียบเสมือนแบรนด์ใหม่ที่มีความเป็นสมาร์ทโฟนสัญชาติฟินแลนด์อย่างแท้จริง นอกจากนี้อดีตซีอีโอของ Nokia ยังเชื่อมั่นว่าจะสามารถดึงพนักงาน Nokia อีกหลายคนเข้ามาร่วมทีมเดียวกับ Newkia ได้อย่างแน่นอน

Thomas Zilliacus ผู้ก่อตั้ง Newkia

           ทั้งนี้อดีตซีอีโอยังทิ้งท้ายว่า Nokia ยังคงมีสิ่งที่ดีที่สุดในแง่ของโทรศัพท์มือถือ ซึ่งนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป Newkia จะสามารถเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่สไตล์ Nokia พร้อมระบบปฏิบัติการ Android ได้ภายในระยะเวลา 1 ปี

เรนเดอร์แรกของสมาร์ทโฟน Newkia

ที่มา www.arip.co.th

แคสเปอร์สกี้ แลป เตือนภัย NetTraveler ระบาดอีกครั้งพร้อมเล่ห์กลใหม่

 

กรุงเทพฯ –– ผู้เชี่ยวชาญจากแคสเปอร์สกี้ แลป เปิดเผยการกลับมาระบาดอีกครั้งของ NetTraveler หรือที่รู้จักอีกชื่อว่า ‘Travnet’ หรือ “Netfile” ซึ่งเป็นภัยคุกคามระดับแอดว้านซ์ที่ระบาดในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก พุ่งเป้าโจมตีบริษัทน้ำมัน ศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัย บริษัทเอกชน หน่วยงานรัฐบาล หน่วยงานทางทหาร สถานทูต และกลุ่มนักรณรงค์

ก่อนหน้านี้ NetTraveler เริ่มระบาดในเดือนมิถุนายน 2556 โดยได้สั่งการชัทดาวน์ระบบ Command & Control และย้ายระบบไปเซิร์ฟเวอร์ที่ประเทศจีน ฮ่องกง และไต้หวัน

เมื่อเร็วๆนี้เอง ทีมวิเคราะห์และวิจัยระดับโลกของแคสเปอร์สกี้ แลป หรือ GReAT (Global Research and Analysis Team) ได้ตรวจพบการแพร่กระจายของอีเมลฟิชชิ่งหลากหลายรูปแบบ ซึ่ง java exploit ที่ใช้ใน Red Star APT ตัวนี้ มีความร้ายกาจกว่า office exploit ที่แพทช์โดย Oracle เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเสียอีก

ทีมผู้เชี่ยวชาญได้คาดการว่า exploit ใหม่นี้ จะสามารถรวมตัวกันทำงานและใช้โจมตีกลุ่มเป้าหมาย โดยได้แนะนำให้ป้องกันการโจมตี โดยวิธีต่อไปนี้

• อัพเดทจาวาเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด และถ้าไม่ได้ใช้งานจาวา ก็ลบการติดตั้งออกจากเครื่อง
• อัพเดทวินโดวส์และไมโครซอฟท์ออฟฟิซเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด
• อัพเดทซอฟต์แวร์อื่นๆ ด้วย เช่น Adobe Reader
• ใช้งานเบราเซอร์ที่ปลอดภัย เช่น Google Chrome ซึ่งจะพัฒนาแพทช์มาปรับปรุงบ่อยกว่า Internet Explorer
• ระวังการคลิกลิ้งค์และการเปิดไฟล์แนบในอีเมลจากผู้ส่งที่ไม่รู้จัก
• ใช้ซอฟต์แวร์เพื่อความปลอดภัยที่มีเทคโนโลยี Automatic Exploit Prevention และ Default Deny เพื่อตอบโต้การทำงานของภัยคุกคามที่มีความสามารถสูงโดยเฉพาะ

ที่มา www.itnews24hrs.com

Windows 8.1 เข้าสู่สถานะ RTM พร้อมให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์นำไปทดสอบได้

ไมโครซอฟท์เผย Windows 8.1 เวอร์ชันพัฒนาเสร็จสมบูรณ์ ถูกนำเข้าสู่สถานะ RTM (release to manufacturing)พร้อมให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ทั้งหลายนำไปทดสอบกับสินค้าของตนได้แล้ว 

 

 

 

อย่างไรก็ตามข่าวนี้ยังไม่เป็นทางการมากนัก ซึ่งอ้างอิงตามการประชุม Worldwide Partner Conference ของไมโครซอฟท์ เมื่อต้นปี ไมโครซอฟท์ได้กล่าวเอาไว้ว่า Windows 8.1 อาจจะได้รับการจัดส่งให้กับบริษัทผู้ผลิตในช่วงปลายสิงหาคม และจากรายงานล่าสุด ยืนยังจริงเเล้วว่า ไมโครซอฟท์ได้นำ Windows 8.1 เข้าสู่สถานะ Release to Manufacturing (RTM) และส่งถึงผู้ผลิตฮาร์ดแวร์หลายๆค่ายแล้ว ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา

Mary Jo Foley และ Paul Thurrott ได้รายงานข่าวโดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดบริษัท เผย มีการยืนยันแล้วว่า Windows 8.1 อยู่ในสถานะ RTM ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมเผยเลข build รุ่นสุดท้ายคือ 9600.16384.130821-1623 ซึ่งเหตุที่ไมโครซอฟท์ไม่ได้มีการประกาศข่าวนี้ อาจเป็นเพราะทางบริษัทกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูง นาย Steve Baller กำลังลงจากซีอีโอของไมโครซอฟท์ในอีก 12 เดือนข้างหน้า

ทั้งนี้ มีการคาดหวังว่า Windows 8.1 รุ่น RTM อาจจะปล่อยให้กับสมาชิก TechNet หรือ MSDN ทดสอบการใช้งาน ก่อนที่เวอร์ชั่นเจเนอรัลจะปล่อยในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างผิดปกติสำหรับไมโครซอฟท์ ถ้าสังเกตจากประวัติที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์จะมีการส่งเวอร์ชั่น RTM ไปยัง OEMs และผู้เชี่ยวชาญทางด้านไอที เพื่อทำการทดสอบก่อน 

หากผู้ใช้ Windows 8 เวอร์ชันปัจจุบันกำลังอยากต้องการอัพเดตเป็น Windows 8.1 ในอนาคต.. ดังรายงานเดิมที่เราเคยรายงานก่อนหน้านี้ 

 

 

ที่มา : techspot

หลุด iPhone 5S สีเทาแกรไฟต์ !

           เผยภาพหลุดล่าสุดจากเว็ปไซต์ต่างประเทศกับภาพ iPhone 5S ซึ่งฝาด้านหลังของโทรศัพท์รุ่นดังกล่าวเป็นสีเทาแกรไฟต์ วางเคียงใกล้เครื่องสีทอง และ สีดำ พร้อมภาพชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆเล็กน้อย..

           ยังคงเป็นข่าวหลุดภาพหลุดรายวันรายสัปดาห์มาอย่างต่อเนื่อง.. ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ทางเราได้รายงานถึง iPhone 5S สีทองคงจะมาจริงอย่างที่หลายๆสื่อคาดไว้ และล่าสุด เว็ปไซต์ Sonny Dickson เว็ปไซต์ขาหลุดประจำแอปเปิ้ลได้โพสต์ภาพ iPhone 5S เป็นเครื่องฝาหลังสีชุดใหม่ ซึ่งเป็นสีเทาแกรไฟต์ วางเคียงใกล้พร้อมเครื่องสีทองนั่นเอง

จากเดิมนั้น Apple มักจะปล่อย iPhone รุ่นที่ผ่านๆมาเป็นสีต้นแบบ เพียง 2 สี คือสีขาวและสีดำเท่านั้น แต่แผนการต่างได้เปลี่ยนไปตามกาลเวลา Apple อาจจปล่อย iPhone 5S ด้วยกัน 4 สี เลยก็เป็นได้ นั่นก็คือ สีเงิน, สีดำ(Slate), สีทองแชมเปญ และ รวมถึงสีเทาแกรไฟต์อีกหนึ่งสี และ เเต่ละสีหลักจะมีการสลับเปลี่ยนสีของขอบฝาหลังเเตกต่างกันออกไป (สังเกตุได้ตามรูป)

ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ร้านซ่อมมือถือ mendmyi ยังได้โพสต์รูปภาพของชิ้นส่วนปุ่ม Power และ ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง แบบหลากสี รวมเป็ 4 สี แต่ทางเว็ปไซต์ก็ได้ยืนยันว่า Apple ตั้งใจทำอุปกรณ์ต่างๆไว้ 4 สีนี้อย่างเเน่นอน..

แฟนๆ Apple รอกันอีกนิด เพราะอีกไม่กี่วันเเล้วที่จะถึงวันที่ 10 กันยายนนี้ ซึ่งหลายแหล่งข้าวอ้างชัดเจนว่า Apple เตรียมเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ในงานวันดังกล่าว และอีก 10 วันถัดไปก็คือวันที่ 20 กันยายน จะเป็นวันเปิดตัว iPhone 5C หรือ iPhone รุ่นราคาประหยัด ที่คนทั้งโลกกำลังรอคอย

ที่มา : cnet , macrumors , mendmyi , sonnydickson

Samsung Gear ใช้คู่กับแอพใด ?

วันที่ 4 กันยายนนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่าซัมซุงจะทำการเปิดตัว Samsung Galaxy Note 3 พร้อมกับ Samsung Gear นาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษว่านวัตกรรมภายใต้การดูแลของซัมซุงจะสร้างเซอร์ไพร์สได้มากน้อยเพียงใด

สกรีนช็อตด้านบนเป็นข้อมูลเบื้องต้นว่า Samsung Gear จะจับคู่กับสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy ด้วยบลูทูธผ่านแอพพลิเคชั่นที่เรียกว่า "Gear manager" ซึ่งเป็นไปได้ว่าแอพนี้จะใช้ได้เฉพาะกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ตระกูล Samsung Galaxy อันเนื่องมาจากในภาพดังกล่าวปรากฎตัวเลือกที่เป็น Samsung Apps ที่เป็นคลังแอพพลิเคชั่นลิขสิทธิ์เฉพาะของซัมซุงอยู่ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกต่างๆ สำหรับเซตค่าต่างให้กับ Samsung Gear อาทิ Clock, My apps, Find my watch และ Settings เป็นต้น

นอกจากการเชื่อมต่อกับบลูทูธแล้ว Samsung Gear กับสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy ยังเชื่อมต่อผ่าน NFC (Near Field Communication) ได้เช่นกัน

ในเบื้องต้น Samsung Gear จะมากับหน้าจอขนาด 2.5 นิ้ว แบบ OLED ใช้ชิปประมวลผลแบบ Dual-Core, มีเซนเซอร์ accelerometer, มีลำโพงในตัว, แรม 1GB, เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ด้วยบลูทูธและ NFC

อ้างอิงจาก 9to5google

Apple ลุยเทคโนโลยี 3D ปรับรูปได้ดั่งใจ

           บางฉากในหนังแนวไซไฟเรามักจะเห็นเทคโนโลยีการควบคุมภาพ 3 มิติ ที่ใช้เพียงปลายนิ้วเพื่อเปลี่ยนรูปร่างหรือจัดการภาพตามที่เราต้องการ ตัวอย่างที่เพื่อนๆอาจจะติดตาที่สุดก็คือในหนังเรื่อง Iron Man ที่ โทนี่ สตาร์ค ใช้เทคโนโลยี 3 มิติจัดการสิ่งประดิษฐ์ ซึ่งจะเปลี่ยนรูปร่างไปตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย แม้จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในหนังแต่อนาคตข้างหน้าเราอาจได้ใช้จริงจากการวิจัยและพัฒนาขึ้นโดย "Apple" ก็เป็นได้

               เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาสิทธิบัตรของ Apple ในชื่อ "Working with 3D objects" ได้ผ่านมาอนุมัติจากสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐอเมริกา เป็นสิทธิบัตรที่ว่าด้วยเทคโนโลยีการสร้างภาพ 3 มิติพร้อมการปรับเปลี่ยนรูปร่างด้วยการเคลื่อนไหวของร่างกาย ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นระบุว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะเริ่มจากการใช้นิ้วมือสร้างภาพแบบ 2 มิติขึ้นมาที่แท็บเล็ตก่อนหลังจากนั้นยกนิ้วมือขึ้น ระบบก็จะตรวจจับการเคลื่อนไหวและระยะห่างเหนือหน้าจอด้วย Proximity Sensor ต่อมาภาพที่เราออกแบบไว้ในแท็บเล็ตก็จะถูกสร้างขึ้นในรูปแบบ 3 มิติ และจะเซนเซอร์คอยตรวจจับการเคลื่อนไหวของร่างกายผู้ใช้งานเพื่อให้รูปภาพเปลี่ยนไปตามที่ต้องการ

               แม้จะเป็นเรื่องในอนาคตแต่ก็นับว่าเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจอย่างยิ่ง และก็หวังว่ามันจะเกิดขึ้นจริงกับอุปกรณ์ชิ้นใดชิ้นหนึ่งของ Apple โดยที่ไม่เป็นเพียงสิทธิบัตรที่จดมาเพื่อกันท่าคู่แข่งเท่านั้น !!!

อ้างอิงจาก iclarified